ความก้าวหน้าในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และการพัฒนาการประมงไทย
- napatsornikg
- 29 ต.ค. 2567
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 4 ธ.ค. 2567

การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และการพัฒนาการประมงอย่างยั่งยืนได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมประมงได้พยายามปรับปรุงมาตรการและแนวทางในการสนับสนุนชาวประมงไทยทั้งในเรื่องการอนุรักษ์ และการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวประมงให้ดีขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโครงการและนโยบายต่างๆ ที่สำคัญสามารถแบ่งออกเป็นประเด็นย่อยได้ดังนี้
การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนประมงท้องถิ่น
กรมประมงได้ดำเนินการพัฒนา และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนประมงท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการทรัพยากรทางทะเล และน้ำจืดแบบยั่งยืน ในปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา โครงการต่างๆ สามารถเพิ่มรายได้ให้กับชาวประมงมากขึ้นถึง 16% โดยกรมประมงมุ่งมั่นที่จะขยายโครงการให้ครอบคลุมในปี 2568 โดยตั้งเป้าหมายสนับสนุน 200 ชุมชนทั่วประเทศผ่านการพัฒนาองค์กรชุมชนให้มีความเข้มแข็ง และมีการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรท้องถิ่น
นอกจากนี้ องค์กรชุมชนเหล่านี้ยังจะได้รับการส่งเสริมการจัดการทรัพยากรน้ำที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการอนุรักษ์ อีกทั้งการบำรุงรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน และเหมาะสมซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมประมงในระยะยาว
การปรับปรุงกฎหมาย และมาตรการประมงเพื่อสนับสนุนชาวประมง
ประเทศไทยได้ปรับปรุงกฎหมายประมงโดยมุ่งเน้นในการป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย (Illegal, Unreported, and Unregulated Fishing หรือ IUU) เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของประเทศรวมถึงการควบคุม หรือการจัดการทรัพยากรทะเลที่เสื่อมโทรม โดยรัฐบาลไทยได้ประกาศใช้กฎหมายประมงที่เข้มงวด ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำในเขตทะเลอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่เริ่มดำเนินมาตรการนี้ ปริมาณสัตว์น้ำในทะเลไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ทะเลอันดามัน ซึ่งการจับสัตว์น้ำเพิ่มจาก 11 กก. ต่อชั่วโมงเป็น 20 กก. ต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อสนับสนุนการจ้างงาน และการปฏิบัติงานในภาคการประมง เช่น การปรับระยะเวลาการทำงานของเรือประมงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการทำประมง หรือตลาดส่งออก ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ และการป้องกันมลพิษทางทะเล
การฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญในการป้องกันความเสื่อมโทรมของทะเลไทย การประมงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการลดการใช้สารเคมีที่ก่อให้เกิดมลพิษได้กลายเป็นแนวทางหลักของรัฐบาลในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีการสร้างพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลในหลายพื้นที่เพื่อปกป้องสัตว์น้ำกับแนวปะการัง อีกทั้งยังมีโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำคืนสู่ธรรมชาติเพื่อเพิ่มจำนวนทรัพยากรในทะเล ทำให้ระบบนิเวศฟื้นฟูตัวเองได้ตามธรรมชาติ
การลดมลพิษทางทะเลก็เป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญโดยรัฐบาล และภาคเอกชนมีการรณรงค์ลดการทิ้งขยะลงทะเล ลดการใช้พลาสติก เพื่อสร้างจิตสำนึกเรื่องการป้องกันมลพิษในท้องทะเลให้แก่ชุมชน และประชาชนทั่วไป การพัฒนาทรัพยากรในส่วนนี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศทางทะเลที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
การฝึกอบรม และพัฒนาความรู้ให้กับชาวประมง
กรมประมงยังได้ดำเนินการพัฒนาทักษะการเลี้ยง และการจัดการประมงอย่างยั่งยืนแก่ชาวประมงโดยมีการจัดอบรม พร้อมทั้งส่งเสริมความรู้ในด้านเทคนิคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ ระบบน้ำหมุนเวียนเพื่อลดการใช้น้ำ และการพัฒนากระบวนการเลี้ยงสัตว์น้ำที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสนับสนุนการแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับสินค้า อีกทั้งยังสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชุมชน
นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ชาวประมงใช้ตลาดออนไลน์ในการกระจายสินค้าเพื่อเพิ่มรายได้ สร้างโอกาสให้กับชุมชนในการเข้าถึงตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศรวมถึงการสร้างแบรนด์สินค้าเฉพาะท้องถิ่นเพื่อสร้างความแตกต่าง อีกทั้งยังดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค
โครงการ หรือนโยบายต่างๆของประเทศไทยในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และการพัฒนาภาคการประมงได้สร้างผลลัพธ์ที่ดี และเป็นไปตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการเพิ่มปริมาณทรัพยากรสัตว์น้ำ การลดมลพิษทางทะเล การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวประมง ซึ่งการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาครัฐ พร้อมทั้งชุมชนท้องถิ่นเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมประมงของไทยในระยะยาว
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ "ปลาไทยปลาดิบไทย" ได้รับการยอมรับในตลาดระดับโลก
"อิคิไก ซีฟู้ด" จึงให้ความสำคัญทั้งการผลิต และจำหน่ายซีฟู้ดคุณภาพสูงที่เน้นทั้งความปลอดภัย ความสดใหม่ จึงกลายเป็นหัวใจหลัก ความมุ่งมั่นนี้ ไม่ได้เพียงแต่จะเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นอิคิไกของการผลิตอาหารทะเลจาก
Comments