ป๊ะ แห่ง ตรัง

ในวันที่เราลงพื้นที่จังหวัดตรัง เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ “ป๊ะสมบูรณ์” เจ้าของกระชังปลาที่นั่น ถึงการทำกระชังปลาธรรมชาติตามระบบนิเวศน์ว่าเป็นยังไงบ้าง ป๊ะเล่าว่า ตอนนี้มีปัญหาเรื่องราคาปลาที่ไม่สามารถสู้ราคาปลาที่นำเข้าได้ เนื่องจากต้นทุนที่สูงจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ ทำให้ไม่สามารถขายปลาในราคาที่ต่ำเท่ากับปลาที่นำเข้ามาจากต่างประเทศได้ เช่น ปลากะพง ที่นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อแตกต่าง ปลาของเราเลี้ยงในกระชังธรรมชาติตามระบบนิเวศน์ ข้อดีคือ ปลาจะมีความสมบูรณ์ ไม่มีกลิ่น มีความมัน เนื้อนุ่ม แต่ข้อเสียเปรียบ คือ สีของตัวปลา ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากสีของปลาปรับเปลี่ยนตามสภาพของน้ำทะเล ถ้าน้ำใส สีก็จะชัด ถ้าน้ำขุ่น สีก็จะเปลี่ยน ต่างจากปลาที่เลี้ยงในบ่อที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งสามารถควบคุมสีของปลาได้ แต่ข้อเสีย คือ การเลี้ยงในบ่อที่ไม่มีคุณภาพมากพอ จะทำให้เนื้อปลานั้นมีกลิ่นคาว และสาบ นอกจากนี้ป๊ะสมบูรณ์ยังพูดถึงปัญหาขยะที่ไม่สามารถแก้ไขได้ว่า ทะเลเป็นแหล่งรองรับสุดท้ายของขยะจากแหล่งน้ำที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จะให้หนีกระชังไปทำที่อื่นก็ไม่สามารถเป็นไปได้ ทำให้ได้เพียงแต่ต้องอยู่กับมันต่อไป ท้ายที่สุดป๊ะเลือกที่จะทำอาชีพประมงนี้ เพราะ อยากที่จะเป็นเจ้านายตัวเอง ทำอะไรแล้วสบายใจก็อยากที่จะทำ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีหน่วยงานหรืออะไรก็ตามที่เข้ามาสนับสนุน ป๊ะก็ยังอยากทำอาชีพนี้ต่อไป